วันอังคารที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2556

โครงสร้างพริก


ข้อมูลเกี่ยวกับพริก

พริก


ชื่อวงศ์ SOLANACEAE ชื่อวิทยาศาสตร์ Capsicum frutescens Linn. ชื่อพื้นเมือง ครี ( กระเหรี่ยงกำแพงเพชร ) ดีปลี (ปัตตานี ) ดีปลีขี้นก พริกขี้หนู ( ใต้ ) ปะแกว (ชาวบน- นครราชสีมา ) พริก (กลาง, เหนือ ) พริกขี้หนู(กลาง ) พริกแด้ พริกแต้ พริกนำ ( เหนือ ) มะระตี้ ( เขมร-สุรินทร์ ) มือซาซีซู มือส่าโพ ( กระเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน ) หมักเพ็ด (อีสาน )

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
พริกเป็นพืชที่มีอายุได้หลายฤดูและลำต้นตั้งตรงสูงประมาณ 1- 2.5 ฟุต ใบแบนเรียบและเป็นมัน ใบรูปร่างกลมรี ปลายใบแหลม ใบออกตรงกันข้าม ดอกเป็นดอกเดี่ยวขนาดเล็ก ก้านดอกตรง หรือโค้ง กลีบดอกจะมีสีขาวหรือสีม่วงเกสรตัวผู้มี 1- 10 อันเกสรตัวเมียมี 1- 2 รังไข่ ผลหลายขนาด พริกขี้หนูจะมีผลขนาดเล็กยาวประมาณ 1- 1.5 นิ้ว มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 1/4 -2/3 นิ้ว เมื่ออ่อนสีเขียวเข้มและเมื่อเจริญเต็มที่จะเปลี่ยนเป็นสีแดง หรือสีเหลือง ในแต่ละผลจะมีเมล็ดจำนวนมากเรียงตัวกันหนาแน่นส่วนของรากมีสีขาว การปลูก พริกชอบดินร่วนซุย อากาศร้อนขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด
ประโยชน์ทางยา
พริกเป็นสมุนไพรที่มีการใช้ประโยชน์ทางการแพทย์มายาวนาน ผลของพริกมีรสรรพคุณขับลม ขับปัสสาวะ แก้ไข้หวัด บรรเทาอาการเจ็บปวด ขับเหงื่อและช่วยให้เจริญอาหาร ประโยชน์ทางอาหาร ส่วนที่เป็นผัก / ฤดูกาล ยอดอ่อนและผลของพริกใช้เป็นผักและเครื่องปรุงรสได้ พริกจะแตกยอดงามในฤดูฝนและก่อนติดผล เมื่อมีผลแล้วจะมียอดน้อยลง ผลจะมีตลอดปี
การปรุงอาหาร
ยอดอ่อนของพริกรับประทานโดยลวกเป็นผักแกล้มกับน้ำพริกหรือนำไปปรุงอาหาร ประเภทแกงจืด แกงเลียง ทำให้รสชาติอร่อยส่วผลมักใช้เป็นเครื่องปรุงรสสำหรับอาหารไทยหลายชนิด
รสและประโยชน์ต่อร่างกาย
ยอดพริกมีรสเผ็ด ส่วนผลของพริกมีรสเผ็ดจัดรับประทานเป็นผักจะช่วยเจริญอาหาร และ ช่วยขับลม ทำให้ระบบย่อยอาหารดีขึ้น ผลของพริกขี้หนู 100 กรัม ให้พลังงานต่อร่างกาย 55 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วย เส้นใย 5.2 กรัม แคลเซี่ยม 4 มิลลิกรัม ฟอสฟอรัส 14 มิลลิกรัม เหล็ก 1.2 มิลลิกรัม วิตามินเอ 2417 IU วิตามินบีหนึ่ง 0.29 มิลลิกรัม วิตามินบีสอง 0.11 มิลลิกรัม ไนอาซิน 1.5 มิลลิกรัม วิตามินซี 44 มิลลิกรัม 


ภาพการ Coss section




อ้างอิง:http://www.google.co.th/url?

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น